เหตุเกิดจากเมื่อประมาณวันที่ 29 ต.ค. 56 เรานอนเล่น S3 อยู่ดีดี น้องเอสของเราก็หมดสติไป เราลองเสิชดูอาการก็ทราบว่าน่าจะเกิดจากอาการบอร์ดพัง จึงรีบใช้แฟนขับรถไปส่งที่ศูนย์เซนทรัลพระราม 2 ค่ะ
พนง. : อาการเป็นอะไรมาครับคุณลูกค้า
เรา : เล่นอยู่ดีดีก็ดับไปเฉยเลยค่ะ ไม่รู้เป็นอะไร (ทำแบ๊วไม่รู้เรื่อง)
พนง. : เดี๋ยวเชคดูให้นะครับ (พนง. ก็เดินถือเครื่องไปหลังร้านให้ช่างดูแล้วก็กลับมาบอกเราว่าน่าจาบอร์ดพัง)
เรา : ทำไมบอร์ดพังล่ะคะ??
พนง. : ก็ไม่รู้คุณลูกค้าไปรูทเครื่องมาหรือเปล่ามันก็เลยพัง
เรา : เครื่องดีขนาดนี้ไม่กล้ารูทหรอกค่ะ เดี๋ยวหมดประกัน ^^
พนง. : ใช้เวลาซ่อม 3 อาทิตย์นะครับคุณลูกค้า ถ้าเสร็จก่อนจะโทรแจ้ง
(บทสนทนาดูไม่มีอะไรแต่น้ำเสียง พนง. ไม่ดีเลยค่ะเราว่ามันไม่สุภาพ)
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเราเห็นนานแล้วเลยจะโทรตามซะหน่อย พอโทรไปตามเบอร์ที่ SS ให้ไว้ ก็โทรไปติดอาซิ่มที่ไหนก็ไม่รู้ เราก็ทำการถอดรหัสปริศนาที่คุณพนักงานทิ้งไว้ให้ โทรไปอีกหลายเบอร์ก้ไม่ติดที่ศูนย์เซน2 ซะที เราก็เลยงอนโทรไปศูนย์ใหญ่ดีกว่าทางศูนย์ใหญ่บอกว่าอะไหล่เพิ่งเข้ากำลังซ่อม เดี๋ยวจะติดต่อศูนย์เซน 2และซ่อมให้เร็วที่สุดค่ะ
วันจันทร์ที่ 25 พ.ย. 56
เราได้โทรไปที่ศูนย์ใหญ่อีก (เพราะมีคนบอกว่าต้องตามจิกไม่งั้นก็ไม่ได้ซะที) เราก็คุยกับทางศูนย์ใหญ่และบอกว่ามันนานเกิน 3 อาทิตย์ที่บอกไว้แล้ว และเบอร์ที่เซน 2 ให้เรามาเราก็ติดต่อไปไม่ได้เลย ศูนย์ใหญ่บอกว่าเดี๋ยวเขาจาโอนสายเราไปให้ให้ถือสายรอ สักพักก็ได้รับการตอบกลับมาว่า "ขออภัยค่ะ ที่ศูนย์เซน 2 ไม่มีใครรับโทรศัพท์ เดี๋ยวทางเราจะให้ทางเซน 2 ติดต่อกลับไปให้เร็วที่สุดนะคะ" เราก็เลยแอบคิดในใจ แหมม..โทรหากันเองยังไม่มีคนรับ และเราเป็นคนอื่นคนไกลจะไปโทรติดหรออ..
อีก 1 ชม. หลังจากนั้น บังเอิญเราไปเจอเบอร์ศูนย์เซน 2 ในเฟสของซัมซุงไทยแลนด์ เพราะมีคนมาโพสถามไว้ว่าเบอร์ติดต่อไม่ได้ เราเรยลองโทรไปอีก คราวนี้ติดแล้วค่ะ..น้ำตาเราแทบไหล ด้วยความดีใจ 555 (ที่เราถอดรหัสปริศนาสำเร็จ) .......เราก็ถามไปว่าโทรศัพท์เราเสร็จหรือยัง พนง. ก้บอกว่าอะไหล่เพิ่งเข้า เราก็คุยบอกว่าโทรศัพท์เรามันนานเกินไปแล้วนะ...ไปๆ มาๆ คุณพนักงานก็บอกว่า เครื่องเข้าวันพุธเย็นให้มารับได้เลย (แหมะ ซ่อมเร็วจังค่ะ ^^)
วันพุธที่ 27 พ.ย. 56...วันนี้ที่รอคอย ^^
วันนั้นเราโทรไปที่เซน 2 ตั้งแต่เที่ยงจนถึง 6 โมง จะเชคว่าเสร็จแล้วแน่เปล่าคือกลัวไปเก้อค่ะ ก็ไม่มีคนรับสายเลยค่ะ เราก็เลยตัดสินใจไป (แอบคิดในใจ --->ถ้าไม่เสร็จงานนี้คงมี ว๊ากกก !! ) ระหว่างที่รอคิวเราก็นั่งภาวนาอย่าให้ได้พนักงานคนเดิม มารยาทไม่ดีเราไม่อยากคุยด้วย .... แต่ด้วยความโชคดี ดันได้คนเดิมค่ะ !!
พนง. : เปลี่ยนจอใช่ไหมครับ
เรา : เปลี่ยนบอร์ดค่ะ -*-
พอได้พบกันน้องเอสของเราเราตะลึงเล็กน้อย นี่นู๋โดนเขาปู้ยีปู้ยำมาขนาดนี้เรยหรออ TT สภาพน้องเอสเรานะคะคือฟิล์มกันรอยมีเหมือนมีฟองอากาศข้างใน ขนาดประมาณเหรียญสิบสองเหรียญทางด้านมุมบน และอีกหนึ่งเหรียญตรงด้านล่างค่ะ
เรา : ต้องทำรุนแรงกันขนาดนี้เลยหรอ (ทำหน้าเศร้า+น้ำตาซึม) ฟิล์มเป็นรอยหมดเลย~
พนง. : เป็นอยู่แล้วหรือเปล่าทางเราไม่มีทางทำเป็นรอยหรอก ผมว่ามันเป็นอยู่แล้วนะ
เรา : ไม่ได้เป็นค่ะ จำรอยได้
พนง. : ผมก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะเราก็ส่งไปให้ช่างซ่อมอีกที จะติดฟิล์มกันรอยเลยหรือเปล่า
เรา : ติดค่ะ
พนง. : แต่ทางผมไม่มี (<และจาถามทำไมนะ - - ) เครื่องนี้เหลือประกันถึงเดือน 5 ปีหน้านะครับ
(น้ำเสียง พนง. ยังคงไม่ถูกใจเราเหมือนเดิม)
เนื่องจากไม่อยากคุยด้วยต่อเลยเดินออกไปจากศูนย์ ไปติดฟิล์มร้านข้างๆ เมื่อแกะฟิล์มออก พบว่าที่เราเข้าใจว่าฟองอากาศตอนแรกมันคือเศษๆ ของพลาสติกที่ซิลหน้าจอค่ะ เราก็เลยลองถูๆ มันออกเราก็เลยไม่ได้กลับไปโวยวายอะไร พอตอนจะติดฟิล์มใหม่เราช็อคกว่าเดิมอีกค่ะ พบ[รอยร้าวตรงช่องเสียบสายชาร์ตกับช่องที่อยู่ทางด้านบนที่เอาไว้แกะฝาหลังอ่ะค่ะ และยังมีรอยสีถลอกรอบตัวเครื่องเลยค่ะ เราเลยรีบกลับไปที่ศูนย์ทันทีเลยค่ะ
เรา : ขอโทษนะคะ โทรศัพท์มีรอยร้าวและรอยถลอกเต็มไปหมดเลยค่ะ
พนง. : เป็นอยู่แล้วหรือป่าวคุณลูกค้า มันน่าจะเป็นอยู่แล้ว เพราะทางเราไม่มีทางทำเป็นรอยครับคุณลูกค้า
เรา : ไม่เป็นค่ะ ............ได้จดไว้หรือเปล่าล่ะคะ ว่าโทรศัพท์มีรอยร้าวขนาดนี้ตอนรับเครื่องไป
พนง. : ผมก็พลาดไม่ได้ดูตั้งแต่แรก
เรา : แล้วก็เมื่อกี๊ที่บอกฟิล์มมันเปนรอยอยู่แล้ว แกะดูแล้วนะคะ เป็นรอยซิลพลาสติกและเอาฟิล์มไปแปะทับ หวังว่าคงเข้าใจนะคะ (ว่าคนปกติเขาไม่ทำกัน)
จากนั้นก็มี พนง. ผู้ ญ เข้ามาถามว่ามีอะไรกัน (คนนี้พูดจาดีค่ะ) เราก็เลยบอกปัญหาของเรา คุณ พนง. ช. คนนั้นก็บอกเหมือนกับว่าเครื่องเราเปนรอยอยู่แล้ว แล้วมาโวยวาย....
พนง. ผู้ ญ ก็ เอาน้องเอสไปดูแล้วเอาไปหลังร้าน(คงเอาไปปรึกษากัน) ออกมาได้ความว่า "เดี๋ยวทางเราจะเปลี่ยนจอให้ค่ะ"
เรา : ?? เปลี่ยนจอทำไมคะ (คือเราไม่รู้ว่าตรงขอบๆกับตรงจอคือชิ้นเดียวกัน)
พนง ญ. : มันเป็นชิ้นเดียวกันถ้าเปลี่ยนต้องเปลี่ยนหมดเลย รอเปลี่ยน 40 นาทีนะคะ
จากนั้นสักครึ่งชั่วโมงก็ได้น้องเอสคืนค่ะ ไม่มีรอยใดๆ แถม SS ใจดีติดฟิล์มให้เราด้วย - - ....ซึ้งใจในความกรุณามากค่ะ ขอบคุณซัมซุงจากใจ T^T
เรื่องที่เราสงสัยนะคะ
.. คือมีโอกาสหรือเปล่าที่จะประกอบจอมาสลับกับคนอื่น คือฟิล์มกับฝาหลังมันใช่ของเราแน่ๆ แต่ตรงชิ้นจอนี่มันแบบเยิน (เพราเราใส่เคสประกบตลอด ส่วนที่เป็นขอบๆ ไม่มีทางได้ออกมาสูดอากาศภายนอกอยู่แล้ว)
.. แล้วคือ ถ้ามันเป็นชิ้นจอเราจริงแล้วอาจเกิดเพราะช่างทำเป็นรอย คุณ พนง. ช. ควรพูดอย่างนั้นหรอว่าเขาก็ไม่รู้ว่าเขาก็ส่งต่อไปอีกที (คือคนส่งกับคนซ่อมไม่ใช่คนของ SS หรอคะ ถึงพูดเหมือนกับว่า SS ไม่เกี่ยวน่ะ)
PS. จากเหตุการณ์เมื่อวานทำเรากับแฟนทะเลาะกัน เนื่องจาก พนง. ช. กวนมาก แฟนเราจึงของขึ้น เราเลยดุไปไม่อยากให้แฟนทำมารยาทไม่ดี (เหมือน พนง. คนนั้น) แล้วบอกว่าเดี๋ยวเราคุยเอง T^T ......
สุดประทับใจ!เมื่อได้ไปใช้บริการ Samsung Service? ประทับใจตอนไหนดีคะ? ... (เตือนเพื่อนๆ ที่จะนำโทรศัพท์ส่งศูนย์ค่ะ)
พนง. : อาการเป็นอะไรมาครับคุณลูกค้า
เรา : เล่นอยู่ดีดีก็ดับไปเฉยเลยค่ะ ไม่รู้เป็นอะไร (ทำแบ๊วไม่รู้เรื่อง)
พนง. : เดี๋ยวเชคดูให้นะครับ (พนง. ก็เดินถือเครื่องไปหลังร้านให้ช่างดูแล้วก็กลับมาบอกเราว่าน่าจาบอร์ดพัง)
เรา : ทำไมบอร์ดพังล่ะคะ??
พนง. : ก็ไม่รู้คุณลูกค้าไปรูทเครื่องมาหรือเปล่ามันก็เลยพัง
เรา : เครื่องดีขนาดนี้ไม่กล้ารูทหรอกค่ะ เดี๋ยวหมดประกัน ^^
พนง. : ใช้เวลาซ่อม 3 อาทิตย์นะครับคุณลูกค้า ถ้าเสร็จก่อนจะโทรแจ้ง
(บทสนทนาดูไม่มีอะไรแต่น้ำเสียง พนง. ไม่ดีเลยค่ะเราว่ามันไม่สุภาพ)
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเราเห็นนานแล้วเลยจะโทรตามซะหน่อย พอโทรไปตามเบอร์ที่ SS ให้ไว้ ก็โทรไปติดอาซิ่มที่ไหนก็ไม่รู้ เราก็ทำการถอดรหัสปริศนาที่คุณพนักงานทิ้งไว้ให้ โทรไปอีกหลายเบอร์ก้ไม่ติดที่ศูนย์เซน2 ซะที เราก็เลยงอนโทรไปศูนย์ใหญ่ดีกว่าทางศูนย์ใหญ่บอกว่าอะไหล่เพิ่งเข้ากำลังซ่อม เดี๋ยวจะติดต่อศูนย์เซน 2และซ่อมให้เร็วที่สุดค่ะ
วันจันทร์ที่ 25 พ.ย. 56
เราได้โทรไปที่ศูนย์ใหญ่อีก (เพราะมีคนบอกว่าต้องตามจิกไม่งั้นก็ไม่ได้ซะที) เราก็คุยกับทางศูนย์ใหญ่และบอกว่ามันนานเกิน 3 อาทิตย์ที่บอกไว้แล้ว และเบอร์ที่เซน 2 ให้เรามาเราก็ติดต่อไปไม่ได้เลย ศูนย์ใหญ่บอกว่าเดี๋ยวเขาจาโอนสายเราไปให้ให้ถือสายรอ สักพักก็ได้รับการตอบกลับมาว่า "ขออภัยค่ะ ที่ศูนย์เซน 2 ไม่มีใครรับโทรศัพท์ เดี๋ยวทางเราจะให้ทางเซน 2 ติดต่อกลับไปให้เร็วที่สุดนะคะ" เราก็เลยแอบคิดในใจ แหมม..โทรหากันเองยังไม่มีคนรับ และเราเป็นคนอื่นคนไกลจะไปโทรติดหรออ..
อีก 1 ชม. หลังจากนั้น บังเอิญเราไปเจอเบอร์ศูนย์เซน 2 ในเฟสของซัมซุงไทยแลนด์ เพราะมีคนมาโพสถามไว้ว่าเบอร์ติดต่อไม่ได้ เราเรยลองโทรไปอีก คราวนี้ติดแล้วค่ะ..น้ำตาเราแทบไหล ด้วยความดีใจ 555 (ที่เราถอดรหัสปริศนาสำเร็จ) .......เราก็ถามไปว่าโทรศัพท์เราเสร็จหรือยัง พนง. ก้บอกว่าอะไหล่เพิ่งเข้า เราก็คุยบอกว่าโทรศัพท์เรามันนานเกินไปแล้วนะ...ไปๆ มาๆ คุณพนักงานก็บอกว่า เครื่องเข้าวันพุธเย็นให้มารับได้เลย (แหมะ ซ่อมเร็วจังค่ะ ^^)
วันพุธที่ 27 พ.ย. 56...วันนี้ที่รอคอย ^^
วันนั้นเราโทรไปที่เซน 2 ตั้งแต่เที่ยงจนถึง 6 โมง จะเชคว่าเสร็จแล้วแน่เปล่าคือกลัวไปเก้อค่ะ ก็ไม่มีคนรับสายเลยค่ะ เราก็เลยตัดสินใจไป (แอบคิดในใจ --->ถ้าไม่เสร็จงานนี้คงมี ว๊ากกก !! ) ระหว่างที่รอคิวเราก็นั่งภาวนาอย่าให้ได้พนักงานคนเดิม มารยาทไม่ดีเราไม่อยากคุยด้วย .... แต่ด้วยความโชคดี ดันได้คนเดิมค่ะ !!
พนง. : เปลี่ยนจอใช่ไหมครับ
เรา : เปลี่ยนบอร์ดค่ะ -*-
พอได้พบกันน้องเอสของเราเราตะลึงเล็กน้อย นี่นู๋โดนเขาปู้ยีปู้ยำมาขนาดนี้เรยหรออ TT สภาพน้องเอสเรานะคะคือฟิล์มกันรอยมีเหมือนมีฟองอากาศข้างใน ขนาดประมาณเหรียญสิบสองเหรียญทางด้านมุมบน และอีกหนึ่งเหรียญตรงด้านล่างค่ะ
เรา : ต้องทำรุนแรงกันขนาดนี้เลยหรอ (ทำหน้าเศร้า+น้ำตาซึม) ฟิล์มเป็นรอยหมดเลย~
พนง. : เป็นอยู่แล้วหรือเปล่าทางเราไม่มีทางทำเป็นรอยหรอก ผมว่ามันเป็นอยู่แล้วนะ
เรา : ไม่ได้เป็นค่ะ จำรอยได้
พนง. : ผมก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะเราก็ส่งไปให้ช่างซ่อมอีกที จะติดฟิล์มกันรอยเลยหรือเปล่า
เรา : ติดค่ะ
พนง. : แต่ทางผมไม่มี (<และจาถามทำไมนะ - - ) เครื่องนี้เหลือประกันถึงเดือน 5 ปีหน้านะครับ
(น้ำเสียง พนง. ยังคงไม่ถูกใจเราเหมือนเดิม)
เนื่องจากไม่อยากคุยด้วยต่อเลยเดินออกไปจากศูนย์ ไปติดฟิล์มร้านข้างๆ เมื่อแกะฟิล์มออก พบว่าที่เราเข้าใจว่าฟองอากาศตอนแรกมันคือเศษๆ ของพลาสติกที่ซิลหน้าจอค่ะ เราก็เลยลองถูๆ มันออกเราก็เลยไม่ได้กลับไปโวยวายอะไร พอตอนจะติดฟิล์มใหม่เราช็อคกว่าเดิมอีกค่ะ พบ[รอยร้าวตรงช่องเสียบสายชาร์ตกับช่องที่อยู่ทางด้านบนที่เอาไว้แกะฝาหลังอ่ะค่ะ และยังมีรอยสีถลอกรอบตัวเครื่องเลยค่ะ เราเลยรีบกลับไปที่ศูนย์ทันทีเลยค่ะ
เรา : ขอโทษนะคะ โทรศัพท์มีรอยร้าวและรอยถลอกเต็มไปหมดเลยค่ะ
พนง. : เป็นอยู่แล้วหรือป่าวคุณลูกค้า มันน่าจะเป็นอยู่แล้ว เพราะทางเราไม่มีทางทำเป็นรอยครับคุณลูกค้า
เรา : ไม่เป็นค่ะ ............ได้จดไว้หรือเปล่าล่ะคะ ว่าโทรศัพท์มีรอยร้าวขนาดนี้ตอนรับเครื่องไป
พนง. : ผมก็พลาดไม่ได้ดูตั้งแต่แรก
เรา : แล้วก็เมื่อกี๊ที่บอกฟิล์มมันเปนรอยอยู่แล้ว แกะดูแล้วนะคะ เป็นรอยซิลพลาสติกและเอาฟิล์มไปแปะทับ หวังว่าคงเข้าใจนะคะ (ว่าคนปกติเขาไม่ทำกัน)
จากนั้นก็มี พนง. ผู้ ญ เข้ามาถามว่ามีอะไรกัน (คนนี้พูดจาดีค่ะ) เราก็เลยบอกปัญหาของเรา คุณ พนง. ช. คนนั้นก็บอกเหมือนกับว่าเครื่องเราเปนรอยอยู่แล้ว แล้วมาโวยวาย....
พนง. ผู้ ญ ก็ เอาน้องเอสไปดูแล้วเอาไปหลังร้าน(คงเอาไปปรึกษากัน) ออกมาได้ความว่า "เดี๋ยวทางเราจะเปลี่ยนจอให้ค่ะ"
เรา : ?? เปลี่ยนจอทำไมคะ (คือเราไม่รู้ว่าตรงขอบๆกับตรงจอคือชิ้นเดียวกัน)
พนง ญ. : มันเป็นชิ้นเดียวกันถ้าเปลี่ยนต้องเปลี่ยนหมดเลย รอเปลี่ยน 40 นาทีนะคะ
จากนั้นสักครึ่งชั่วโมงก็ได้น้องเอสคืนค่ะ ไม่มีรอยใดๆ แถม SS ใจดีติดฟิล์มให้เราด้วย - - ....ซึ้งใจในความกรุณามากค่ะ ขอบคุณซัมซุงจากใจ T^T
เรื่องที่เราสงสัยนะคะ
.. คือมีโอกาสหรือเปล่าที่จะประกอบจอมาสลับกับคนอื่น คือฟิล์มกับฝาหลังมันใช่ของเราแน่ๆ แต่ตรงชิ้นจอนี่มันแบบเยิน (เพราเราใส่เคสประกบตลอด ส่วนที่เป็นขอบๆ ไม่มีทางได้ออกมาสูดอากาศภายนอกอยู่แล้ว)
.. แล้วคือ ถ้ามันเป็นชิ้นจอเราจริงแล้วอาจเกิดเพราะช่างทำเป็นรอย คุณ พนง. ช. ควรพูดอย่างนั้นหรอว่าเขาก็ไม่รู้ว่าเขาก็ส่งต่อไปอีกที (คือคนส่งกับคนซ่อมไม่ใช่คนของ SS หรอคะ ถึงพูดเหมือนกับว่า SS ไม่เกี่ยวน่ะ)
PS. จากเหตุการณ์เมื่อวานทำเรากับแฟนทะเลาะกัน เนื่องจาก พนง. ช. กวนมาก แฟนเราจึงของขึ้น เราเลยดุไปไม่อยากให้แฟนทำมารยาทไม่ดี (เหมือน พนง. คนนั้น) แล้วบอกว่าเดี๋ยวเราคุยเอง T^T ......